บริษัทในประเทศอินเดียได้ทำการทุบสถิติ แหวนที่มีเพชรมากสุดในโลก ด้วยการออกแบบ แหวนเพชร ที่มีจำนวนเพชรกว่า หมื่นเม็ด เมื่อวันที่ 4 มกราคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า กินเนสส์บุ๊ก ได้มอบสถิติให้แหวนแห่งความรุ่งเรือง หรือ แมริโกลด์ จากบริษัท เรนานี บริษัทเครื่องประดับในประเทศอินเดีย ให้กลายเป็นแหวนที่จำนวนเพชรมากที่สุดในวงเดียว
แหวนดังกล่าวมีเพชร 38.08 การัตจำนวน 12,638 เม็ด โดยแหวนมีรูปทรงเป็นดอกไม้ที่หรูหรา และมีน้ำหนักๆมากกว่า 165 กรัมเพียงเล็กน้อย
สถิติก่อนหน้านี้อยู่ที่ 7,801 เม็ดต่อหนึ่งวัน เป็นแหวนที่ถูกออกแบบโดยบริษทในประเทศอินเดียเช่นเดียวกัน โดยแหวงวงดังกล่าวได้ทำลายสถิติในปี 2561 ที่ผ่านมา
โดยนาย ฮาชิท บาร์ชัล ผู้ก่อตั้งบริษัทเรนานี และ เป็นผู้ออกแบบได้ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่เขาได้ออกแบบแหวนวงใหม่นี้ขึ้น เพราะเขาเกิดแรงบันดาลใจ เมื่อเห็นสถิติที่ถูกทำลายลงในปี 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเขากล่าวว่าเขาใช้เวลา 2 ปีก่อนที่การออกแบบจะเสร็จสิ้น
สุดวุ่น! เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ ตามล่าหนุ่มคลั่งเอา กิ่งไม้ไล่ตีหัว ประชาชน จนทำให้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม สำนักข่าว ABC รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมนาย ไบรอั้น ทอมสัน ชายชาวอเมริกันวัย 43 ปีที่อาศัยอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ หลังจากที่ชายคนดังกล่าวถูกกล่าวหาว่าใช้กิ่งไม้ฟาดหัวของประชาชน ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ผู้ก่อเหตุได้ใช้กิ่งไม้ไล่ฟาดศีรษะของประชาชนในชานชาลา รถไฟใต้ดิน เมื่อนาย ทอมสัน ออกมาจากสถานีรถไฟ เขาก็ใช้ไม้คู่ใจฟาดหัวของประชาชนอีกคน ก่อนที่เขาจะทำร้ายร่างกายคนขับรถ และขับหนีออกจากที่เกิดเหตุไป อย่างไรก็ตาม นายทอมสันไปขับชนเข้ากับรถที่จอดอยู่สองคัน
ผู้ก่อเหตุได้ลงจากรถ และทุบกระจกหวังปล้นรถอีกคัน อย่างไรก็ตามเจ้าของรถคันดังกล่าวไม่ยอมลงจากรถ ซึ่งมีรายงานว่าผู้ก่อเหตุได้ใช้กิ่งไม้ทำร้ายร่างกายประชาชนอีกสองคน ก่อนจะปล้นรถอีกคัน และขับหนีไปอีกครั้ง โดยคนขับเสียหลักและขับชนเข้ากับยานพาหนะของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้ปืนไฟฟ้าช็อตผู้ก่อเหตุ หลังจากที่เขาไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำผู้ก่อเหตุไปตรวจสภาพทางจิต และตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายและโจรกรรมหลายกระทง
เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยอีกว่าเหยื่อ 4 คนแรก มีแผลที่ศีรษะ ส่วนอีกรายแขนหัก
ต้านโควิดไม่ไหว! มาเลเซีย ประกาศ ภาวะฉุกเฉิน
มาเลเซีย ประกาศใช้ ภาวะฉุกเฉิน หลังจากที่ยอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่ยังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประชาชนในเมืองหลวงต้องกลับเข้าสู่การล็อกดาวน์
เมื่อวันที่ 12 มกราคม สำนักข่าว อัลจาซีร่า รายงานว่า ประเทศมาเลเซียได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจากที่ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ใหม่ในประเทศมาเลเซีย ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่ประชาชนชาวมาเลเซียหลายล้านจะกลับสู่การล็อกดาวน์ 14 วัน
โดยภาวะฉุกเฉินจะสิ้นสุดในวันที่ 1 สิงหาคม หรือ เร็วกว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศ ทั้งนี้ยังไม่มีการกำหนดแน่ชัดว่า ภาวะฉุกเฉินครั้งนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของประชาชนอย่างไร หรือ มีความแตกต่างจากภาวะฉุกเฉินครั้งก่อนหน้าหรือไม่
ประเทศมาเลเซียมีกำหนดรับซัคซีนไฟเซอร์ในช่วงเดือนหน้า และทางการตั้งเป้าว่าจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนราวๆร้อยละ 70 ของประเทศ
ขณะนี้ประเทศมาเลซียมียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 138,000 ราย โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมานั้น ประเทศมาเลเซียได้ทุบสถิติยอดผู้ป่วยต่อวันมากที่สุด ด้วยการพบผู้ป่วยใหม่มากกว่า 3,000 พันราย นอกจากนี้ทางการยังยืนว่ามีการตรวจพบผู้ป่วยโควิดกลายพันธุ์อีกด้วย
แพทย์จีนได้เปิดเผยงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า ผู้ป่วย ยังสามารถ สัมผัสได้ถึง อาการป่วย หลังหายโควิด นาน 1 เดือน สูงสุด 6 เดือน
เมื่อวันที่ 12 มกราคม สำนักข่าว CNN เปิดเผยงานวิจัยของประเทศจีนที่ได้ศึกษากับผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากกว่า 1,700 คน จากเมืองอู่ฮั่น อดีตศูนย์กลางการแพร่ระบาดในจีน โดยจากการสำรวจพบว่า 76% ของผู้ที่เคยป่วยเป็นโรคโควิด-19 ยังรู้สึกถึงอาการป่วย เป็นระยะเวลา 1 เดือน แม้หลังได้รับปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ตาม
จากแบบสำรวจยังพบว่า ผู้ที่เคยป่วย สามารถสัมผัสอาการป่วยได้นานสูงสุด 6 เดือน โดยจากแบบสำรวจพบว่าผู้เคยป่วยร้อยละ 63% สามารถรู้สึกได้ถึงอาการเหนื่อยแม้หายป่วยแล้วก็ตาม ตามมาด้วย 26% ที่นอนหลับยาก
นอกจากนี้แล้วโรคโควิดยังสามารถส่งผลกระทบกับสภาพจิตใจของผู้ป่วยในระยะยาวอีกด้วย จากการสำรวจพบว่าผู้ทำแบบสำรวจ 23% เป็นซึมเศร้า หรือ เป็นโรควิตกกังวล
ในส่วนของผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงนั้น ผลสแกนเอ็กซ์-เรย์ แสดงให้เห็นถึงปอดที่ได้รับความเสียหายจากโรคโควิด-19
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป
